6. การย้ายเมืองครั้งแรก


    
        ก่อนหน้าที่จะออกจากร้านอาหารประมาณสองสัปดาห์ผมก็ได้ไปซื้อตั๋วรถบัสอีกเมืองหนึ่งรอไว้แล้ว เมืองนั้นชื่อว่า Hastings คุณอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงเลือกไปเมืองนี้ใช่ไหม ที่มาที่ไปของมันก็คือ ระหว่างที่ผมพักอยู่ห้อง 701 ในแบคแพคเกอร์แรกนั้น ผมได้เจอกับรูมเมทมากหน้าหลายตา และหลายเชื้อชาติ สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเข้าพัก บางคนก็มาอยู่ 2-3 คืน บางคนคืนเดียว บางคนก็อยู่เป็นสัปดาห์ ผมรู้สึกสนุกที่ได้เจอคนต่างชาติต่างวัฒนธรรม ผมชอบอะไรที่หลากหลาย และผมก็แทบจะชวนคุยกับทุกคนที่เข้ามาพักเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมอง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับผม ในฐานะผู้มาใหม่ของประเทศนี้

หากเจอพวกคนที่มาพักเพื่อรอเที่ยวบินกลับบ้าน ผมก็มักจะถามคำถามอย่างเช่น คุณไปอยู่ที่ไหนในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาบ้าง  รู้สึกชอบที่ไหนเป็นพิเศษไหม มีงานดีดีในเมืองไหนที่พอจะแนะนำได้บ้างไหม และเมือง Hastings ก็เป็นชื่อเมืองหนึ่ง ที่นักกระดานโต้คลื่นชาวญี่ปุ่นที่เคยเข้ามาพักห้องเดียวกับผมแนะนำมา เค้าว่าที่นั่นมีงานเยอะและงานที่เขาชอบมากที่สุดก็คืองานเก็บบลูเบอรี่ ผมจึงตัดสินใจว่าเมืองต่อไปที่ผมจะไปก็คือเมือง Hastings นี่แหละ

คุณอาจจะสงสัยว่าอะไรทำให้ผมมั่นใจขนาดนั้นใช่ไหม ถ้าจะให้บอกก็คือผมมักจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเวลาพูดคุยกับคนว่าเค้ารู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่เค้าพูด อันที่จริงจะเรียกว่าเป็นการใช้สัญชาติญาณก็ได้ แต่เรื่องนี้น่าจะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ต้องยกไว้ก่อน เอาเป็นว่าผมรู้สึกได้ว่าเมืองที่เขากำลังเล่าให้ผมฟังนั้นเขารู้สึกดีกับสิ่งที่เขาเล่าจริงๆ ซึ่งความรู้สึกของผมในตอนนั้นก็รู้สึกว่าเมืองนี้จะต้องเป็นเมืองที่ผมสามารถทำงานเก็บเงินได้แน่ ผมจึงเช็คในอินเตอร์เน็ตเพื่อดูพิกัดของเมืองอีกสักหน่อยจากนั้นจึงไปซื้อตั๋วรถบัสเตรียมรอไว้

        และในที่สุดในช่วงกลางเดือนตุลาคมผมก็ได้เดินทางไกลใน NZ เป็นครั้งแรก ผมสามารถเก็บเงินเพิ่มจากการทำงานที่ร้านอาหารได้อีกประมาณ 200-300 เหรียญ ซึ่งผมก็จำแน่ชัดไม่ได้ แต่ผมรู้สึกว่ามันมากขึ้นกว่าเดิมหน่อยนึง ตอนนี้ผมก็เริ่มคุ้นเคยกับบรรยากาศใน NZ มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว และพร้อมที่จะเดินทางออกจากเมือง Auckland






No comments:

Post a Comment

คำนำและบทสรุป

          คำนำและบทสรุป           รูปแบบการเดินทางเป็นเรื่องราวเฉพาะบุคคล ไม่มีการเดินทางเส้นไหนจะวิเศษกว่าเส้นทางไหน เพราะทั้...