39. ค้างแรมในที่ทำงาน


     
        แม้ว่าผมจะย้ายที่พักมาแล้ว แต่การขับรถไปทำงานกว่าครึ่งชั่งโมง รวมเวลาไปกลับก็หนึ่งชั่วโมงต่อวันนั้น ทำให้ผมรู้สึกว่ามันเป็นการสิ้นเปลืองเวลาและค่าน้ำมัน ผมจึงมีไอเดียที่น่าสนใจที่มีความเป็นไปได้ผุดขึ้นมา ก็ในเมื่อผมเคยใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่สามสัปดาห์บนรถคันนี้แล้ว ทำไมผมจะไม่ลองจอดค้างแรมในสวนเลยล่ะ ก็ในเมื่อห้องน้ำก็มีพร้อม

          และพอดีกับช่วงท้ายๆผมมักจะได้ทำงานคนเดียว เนื่องจากคนอื่นๆรู้สึกว่างานตอกตะปูมันหนักไป ซึ่งก็น่าเห็นใจพวกผู้หญิงเค้าเหมือนกัน พวกเขาเปลี่ยนไปทำงานที่อื่น จึงเหลือแต่ผมอยู่คนเดียวที่ไม่คิดจะย้ายไปไหน เหตุผลหนึ่งก็เพราะผมเหลือเวลาในวีซ่าอีกไม่มาก และโดยส่วนตัวผมก็ไม่คิดว่ามันเป็นงานที่หนักเกินไป มันอาจจะดูน่าเบื่อที่ต้องตอกตะปูซ้ำๆไปเรื่อยๆ แต่บรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติที่อากาศไม่ร้อนก็ช่วยให้แต่ละวันผ่านไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไรมาก ซึ่งผมก็มีวิธีที่ช่วยทุ่นแรงตัวเองอยู่เหมือนกัน โดยผมจะสลับมือในการตอกตะปู

          ผมเป็นคนถนัดมือซ้าย ดังนั้นผมจะใช้มือซ้ายตอกจังหวะแรกเพื่อเป็นการเริ่มต้น เมื่อตะปูตั้งตรงหลังจากการตอกไปประมาณสองครั้งแล้ว ผมก็จะเปลี่ยนมาใช้มือขวาในการตอก จนตะปูจมลงไปเรื่อยๆ ด้วยการสลับมือกันทำงานแบบนี้ สามารถช่วยให้ผมทำงานได้เป็นระยะเวลานานโดยที่กล้ามเนื้อไม่เมื้อยล้ามากนัก แน่นอนว่าการใช้มือข้างที่ไม่ถนัดในช่วงแรกๆจะต้องให้เวลากับมันเพื่อสร้างความคุ้นเคยอยู่สักหน่อย แต่การทำซ้ำไปเรื่อยๆจะช่วยให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางไปเอง

          ผมทำงานตอกตะปูมากว่าสัปดาห์จนเสร็จงาน ในช่วงนี้ผมเริ่มแอบค้างที่สวนบ้างแล้ว โดยปกติผมอาจจะนอนที่สวนหนึ่งคืน ไม่ก็สองคืน แล้วก็จะขับรถไปนอนที่แบคแพคเกอร์หนึ่งคืนเพื่ออาบน้ำ และเตรียมความพร้อมในเรื่องน้ำดื่มและอาหารสำหรับการพักแรมในสวนในครั้งต่อไป ช่วงนั้นดีหน่อยที่ไม่ค่อยจะมีฝน และการที่อากาศไม่ร้อนนักบวกกับงานที่ไม่ได้ทำให้เหงื่อออก จึงไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกว่าจำเป็นต้องอาบน้ำทุกวัน ตรงกันข้าม การได้นอนในสวนทุกคืนทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นนิดๆที่สามารถหาวิธีลดต้นทุนได้ ทั้งยังได้เปลี่ยนบรรยากาศอีกด้วย
















  
          บางครั้งผมก็จะขับรถไปจอดไม่ห่างจากห้องน้ำในสวนมากนัก เพื่อความสะดวกในตอนเช้า บางทีผมก็ไปจอดห่างออกมาตรงบริเวณข้างสวนที่อยู่ติดกับลำธาร ซึ่งก็มีวิวทิวทัศน์ที่สวยไปอีกแบบหนึ่ง แม้ว่าการมองย้อนกลับไป ณ ช่วงเวลานั้น อาจทำให้ผมถามตัวเองว่า ทำไมถึงได้ใช้ชีวิตแบบนั้นได้ แต่ความรู้สึกตอนนั้นมันเป็นความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ลองทำในสิ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ แต่ก็ยังไม่เคยลองทำเพราะความวิตกต่างๆที่ใจเราสร้างขึ้นมา แต่พอได้ลองทำแล้วรู้ว้เราทำได้ มันช่างเป็นความรู้สึกที่ดีทีเดียว

          ในระหว่างนั้นผมเริ่มใช้เวลาคิดหาวิธีขายรถคันนี้ เพราะเหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียวผมก็จะต้องบินแล้ว







 

No comments:

Post a Comment

คำนำและบทสรุป

          คำนำและบทสรุป           รูปแบบการเดินทางเป็นเรื่องราวเฉพาะบุคคล ไม่มีการเดินทางเส้นไหนจะวิเศษกว่าเส้นทางไหน เพราะทั้...