ก่อนการเดินทาง ผมหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต จองตั๋วเรือข้ามฟาก จองตั๋วรถไฟ จองตั๋วรถบัส และจองห้องพักระหว่างทางหนึ่งคืน จริงๆแล้วถ้าจะให้ผมบินข้ามเกาะไปเลยผมก็สามารถทำได้ อาจจะประหยัดเงินและเวลามากกว่าด้วยซ้ำ แต่ผมต้องการประสบการณ์ที่ผมไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไร สัมผัสรูปแบบการเดินทางหลากหลายรูปแบบ แวะเวียนไปในสถานที่ที่แตกต่าง เจอผู้คนและอะไรๆที่ผมยังไม่เคยเห็น ตอนผมจองอะไรพวกนี้ผมก็มักจะทำล่วงหน้าก่อนการเดินทางสักระยะหนึ่ง เช็คแต่ละวันในรอบสัปดาห์ว่าวันไหนถูกที่สุด จัดแต่ละการจองให้สัมพันธ์และลงตัวกันมากที่สุดโดยไม่จำเป็นว่าต้องถูกที่สุดเสมอไป เพราะประเด็นสำคัญคือการสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลาย ปรับตรงนี้นิด ตรงนั้นหน่อย พอทุกอย่างลงตัวเข้าที่เข้าทาง ก็เหลือแค่การเก็บทุนไปเรื่อยๆและรอให้ถึงวันนั้น
ในระหว่างที่รอวันเดินทางอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ ก็มีอุบัติเหตุเล็กๆที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นอยู่สองอย่าง เรื่องแรกคือวันทำงานวันหนึ่งที่ผมรีบลงจากรถเพื่อไปเก็บถั่ว ผมปิดประตูรถด้วยแรงปกติ แต่ด้วยความใจร้อนและไม่ทันระวัง เป็นต้นว่า ใจไปอยู่ที่แปลงถั่วที่อยู่ตรงหน้าในขณะที่มือกำลังเหวี่ยงประตูรถอยู่ ทำให้ประตูหนีบกระแทกปลายนิ้วโป้งข้างซ้ายของผมตรงบริเวณเล็บพอดี ณ ตอนที่โดนผมรู้สึกเจ็บแต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ เพราะความโลภและความร้อนรนครอบงำ จึงได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาเก็บถั่วไปเรื่อยๆ อาการมารุนแรงมากขึ้นก็ประมาณตอนเที่ยง นิ้วเริ่มระบมและผมทำงานช้าลง ผมเริ่มรู้สึกหงุดหงิดและรำคาญ และก็พอดีกับที่น้องซึ่งเป็นลูกสาวของน้ารู้สึกไม่สบายและอยากจะกลับบ้านตอนเที่ยง น้องถามผมว่าพอจะเป็นไปได้ไหม ซึ่งผมก็รู้สึกปวดนิ้วเป็นทุนอยู่แล้ว แม้ว่าผมอยากจะทำงานเก็บเงินแต่ผมก็ไม่ได้ให้ค่าของเงินมากกว่าความคิดที่ว่าอยากให้น้องรู้สึกดีขึ้น ผมจึงยินดีที่จะขับรถกลับบ้านกับน้อง ซึ่งเรื่องตื่นเต้นอีกเรื่องก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ในขณะที่ผมหักพวงมาลัยรถเพื่อจะนำรถไปจอดให้ใกล้บ้านที่สุด เพื่อที่น้องจะได้ไม่ต้องเดินไกล ทางเข้าบ้านจะว่าไปก็ค่อนข้างจะพอดีกับตัวรถ แต่ผมก็เผื่อระยะไว้ไม่มากพอเนื่องด้วยความประมาท รถคันใหม่ของน้องก็ได้เอาแก้มไปครูดกับมุมกำแพงบ้านเพื่อนบ้าน เป็นแผลถลอกที่ไม่ใหญ่มากแต่ก็ชัดเจนพอสมควรสำหรับรถใหม่
ผมบอกกับน้องทันทีว่าไม่ต้องห่วงอะไรนะ พี่ขอรับผิดชอบค่าซ่อมทั้งหมด ปากก็พูดไปแต่ใจจริงก็วิตกอยู่เหมือนกัน เรื่องเงินผมไม่ห่วงแต่ที่กังวลคือไม่รู้ว่าน้าเค้าจะมองเรื่องนี้อย่างไรตอนที่กลับมาถึงบ้านแล้ว และอีกเรื่องก็คือตัวเองกำลังจะเดินทางในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ไหนจะนิ้วโป้งข้างที่ถนัดก็ยังระบมอยู่ ยอมรับว่าวิตกอยู่แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอะไร ผมต้มน้ำตะไคร้ให้น้องกินแก้ปวดท้องไปพลางๆ ค่อยๆนั่งคิดประเมินสถานการณ์ แล้วพอเวลาบ่ายแก่ๆใกล้เวลาเลิกงานของน้าผมจึงตัดสินใจโทรไปหาน้าโดยเกริ่นเล็กๆว่าอยากให้น้ารีบกลับบ้าน เพราะมีเรื่องอยากจะคุยด้วย เจตนาก็เพื่อให้น้าเค้าได้เตรียมใจไว้ก่อนบ้างเพราะอาจจะทำให้ลดความตกใจลงได้บ้างเมื่อต้องกลับมา แล้วเห็นรอยถลอกที่รถ
แต่แล้วเรื่องก็คลี่คลายลงได้ไม่ยากเนื่องเพราะความใจกว้างของน้า เค้าไม่ได้มองมันเป็นเรื่องใหญ่อย่างที่ผมคิดเลย น้าบอกว่ารู้จักช่างทำสีฝีมือดีที่คิดราคาไม่แพง และน้าก็พาผมตระเวนไปคุยกับช่างเย็นวันนั้นเลย พอได้ยินราคาที่ช่างประเมินออกมาและผมลองเพิ่มค่าชดเชยทางจิตใจต่างๆดูแล้ว ผมคิดว่าผมน่าจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายไม่น่าจะเกิน 500 เหรียญสำหรับเรื่องนี้ ซึ่งพอรู้ตัวเลขคร่าวๆในใจก็ช่วยให้ผมลดความตึงเครียดไปได้มาก
สำหรับเรื่องนิ้ว น้าก็แนะนำให้ผมกินยาแก้อักเสบกันไว้ ซึ่งผมก็ยังคงดื้อตามเคย ผมเองตอนนั้นมีทัศนคติที่ว่าร่างกายโดยลำพังแล้วสามารถรักษาตัวมันเองได้และด้วยความอวดดีผมจึงไม่ได้ทำตามที่น้าบอก หลังจากนั้นอีกประมาณหนึ่งวัน ผมก็ได้เห็นผลลัพธ์เกินคาด นิ้วโป้งข้างซ้ายของผมบวมกว่าอีกข้างเกือบเท่าตัวทั้งยังมีเลือดสีดำคั้งค้างอยู่ใต้เล็บที่หาทางออกไม่ได้ ผมปวดนิ้วจนต้องนอนหลับๆตื่นๆและไม่ได้ไปทำงานในวันถัดมา จนถึงจุดหนึ่ง ผมต้องใช้เข็มแทงเข้าไปที่ผิวหนังปลายเล็บเพื่อบีบเลือดที่คั่งออกมา ใจหนึ่งก็ตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะเลือดนี่พุ่งเป็นน้ำพุเลย อีกใจหนึ่งก็สมน้ำหน้าตัวเองเล็กๆที่ไม่ยอมกินยาแก้อักแสบอย่างที่น้าได้แนะนำไว้ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่บีบเลือดเสียออกแล้ว อาการปวดก็ลดลงไปมาก แต่ก็ยังคงรู้สึกเจ็บอยู่ ผมก็คิดไปว่าที่เหลือก็แค่รอ แต่แม้กระนั้นผมก็ยังไม่ไปหายาแก้อักแสบมากิน
วันเดินทางใกล้เข้ามาถึงแล้ว เรื่องรถของน้องผมก็ได้โอนเงินเข้าบัญชีไว้กับน้าแล้ว แต่ก็ต้องรออีกสักพักกว่าช่างจะว่าง ใจจริงก็อยากจะอยู่รับผิดชอบจนทุกอย่างเรียบร้อยนั่นแหละ แต่สถานการณ์มันไม่อำนวย อย่างไรก็ตาม น้าดูเข้าใจผมมาก ทั้งยังจัดปาตี้เลี้ยงวันเกิดให้ผม และได้ถือโอกาสนั้นเลี้ยงส่งผมไปด้วยเลย ผมเองยังรู้สึกแปลกๆและสับสนกับตัวเองเลยว่า การจะจากบ้านนี้ไปมันเป็นความคิดที่ดีแล้วหรือ แต่มันก็ยังเป็นเพียงเสียงเล็กๆในหัวใจ วันรุ่งขึ้นน้าขับรถไปส่งผมที่ท่ารถบัส บอกตามตรงว่าตอนนั้นผมคิดว่าจะไปอยู่เกาะใต้และหาที่ทำงานที่นั่นสักพักเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ผมกอดน้าตามธรรมเนียมแต่ในใจก็รู้สึกขอบคุณ
No comments:
Post a Comment