34. การเดินทางไปกับรถนอน (ตอนที่ 10) ภูเขา Egmont (ศิลปะในการจอดรถพักแรม)




          วันนั้นตลอดช่วงเช้ามาถึงบ่าย ผมขับรถตามเส้นทางมาเรื่อยๆจนมาใกล้ภูเขา Egmont เมื่อมองจากชุมชนที่อยู่ใกล้ภูเขาแบบนี้ มันช่างน่าตื่นเต้นตระการตามาก ผมว่าคนในชุมชนนี้ต้องรู้สึกว่าพวกเขามีทิวทัศน์ที่สวยงามในตอนเช้าไว้ดูแน่ๆ แต่อาจจะเป็นเพราะผมเพิ่งจะมาที่นี่เป็นครั้งแรกก็ได้

 แต่เขานี้ดูโดดเด่นและยิ่งใหญ่จริงๆ ยิ่งถ้ามองมาจากหมู่บ้านหรือแม้ในยามที่กำลังขับรถอยู่เช่นนี้ ทั้งบนยอดที่มีหิมะที่ยังละลายไม่หมดปกคลุมอยู่อีก บรรยากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆเมื่อผมเริ่มขับรถไปใกล้ตัวภูเขา และได้มาถึงจุดจอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวในที่สุด

 ที่นี่แม้จะมีลักษณะคล้ายๆกับอุทยานแห่งชาติแต่ก็ไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าผ่านทางแต่อย่างใด ผมคิดว่าน่าจะมีรถเข้า-ออกที่นี่ตลอดทั้งวัน แต่รถที่จอดค้างคืนจริงๆเมื่อรวมคันของผมแล้วก็มีอยู่สี่คัน ผมขยับรถเพื่อให้ได้จุดที่ดูสมดุลที่สุดสำหรับการนอน ซึ่งอย่างน้อยก็ให้ด้านหัวผมสูงกว่าหน่อยก็ยังดี

การหาที่จอดรถเพื่อการพักแรมเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง พื้นที่แต่ละแห่งที่ผมไปจอดมีความลาดเอียงแตกต่างกัน ประสบการณ์ช่วยให้ผมได้ไตร่ตรองมากขึ้นในการหาพื้นที่จอดรถ ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นวันที่จะมีฝนตกในตอนกลางคืน ซึ่งหากจะถามผมว่า ผมจะรู้ได้อย่างไร อุปกรณ์ที่ช่วยในเรื่องนี้ก็คือแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์(ต้องขอบคุณการตระหนักรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ที่ได้ทำงานสวน สิ่งนี้มีประโยชน์กับผมมากทีเดียวแม้กับชีวิตประจำวันของผมในขณะนี้)




























ในคืนที่จะมีฝน การจอดรถใต้ต้นไม้ไม่ใช่สิ่งที่ดีอย่างที่คิด เพราะจะทำให้ผมได้ยินเสียงกลอง ที่เกิดจากหยดน้ำที่ร่วงลงมาจากต้นไม้ด้านบนตลอดทั้งคืน และการที่มันร่วงมาแบบไม่ได้จังหวะที่สม่ำเสมอนั้น สามารถทำให้จิตเกิดความหงุดหงิดได้เป็นอย่างดี ในกรณีแบบนี้ การจอดรถไว้ห่างจากรัศมีของพุ่มไม้จะเป็นการดีที่สุด เพราะแม้ว่าหลังคารถจะได้รับหยดน้ำฝนจากฟ้ามาอย่างเต็มๆ แต่มันจะเป็นเสียงที่สม่ำเสมอคล้ายกับเสียงหลังคาบ้านตอนฝนตกนั่นแหละ และต่อให้ฝนตกหนักและทำให้เกิดเสียงดังแค่ไหน ความที่มันเป็นคลื่นเสียงที่สม่ำเสมอนั้น จึงไม่ได้เป็นสิ่งที่กระตุ้นโสตประสาทหูแต่อย่างใด

ภูเขา Egmont มี Track ไว้ให้เดินหลายเส้นทาง ผมลองเดินอยู่ 2-3 เส้นทางก็รู้สึกพอใจ เส้นทางหลายเส้นสามารถบรรจบเชื่อมกันได้ คุณจะประทับใจกับวิวทิวทัศน์และลำธารที่จะตัดผ่านอยู่ในบางเส้นทาง ความรู้สึกของผมกับการเดินแทร็กที่นี่ออกจะคล้ายๆกับการเดินในป่าดงดิบ แม้ว่าผมจะยังไม่เคยมีประสบการณ์กับป่าประเภทนั้น แต่ด้วยความที่เส้นทางบางช่วงมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นกันอยู่อย่างหนาแน่น และความชื้นในฤดูใบไม้ผลิ ที่ทำให้ต้นไม้บริเวณนั้นมีขี้ตะไคร่สีเขียวอ่อนปกคลุมอยู่เต็มไปหมด อย่างกับหลงเข้าไปในป่ามรกตอย่างงัยอย่างงั้น ผมกลับมาที่รถในช่วงเย็นพร้อมกับทำอาหารง่ายๆกิน คืนนั้นเป็นอีกคืนที่มีฝนตกปรอยๆ และผมก็หลับไปอย่างสงบ

การดื่มกาแฟในตอนเช้ายังคงเป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกดีอยู่เสมอ สำหรับเช้าวันใหม่นี้ ผมได้นำถ้วยกาแฟขึ้นไปดื่มข้างบนหอสังเกตการณ์ที่อยู่ใกล้ๆ เป็นความรู้สึกที่ดีมาก เมื่อผมตื่นเช้าและดื่มกาแฟอย่างสงบขณะที่คนอื่นๆยังอยู่ในรถ สีสันและความสดชื่นในตอนเช้ายังคงเป็นรางวัลให้กับวันใหม่ของผมเสมอมา พอจัดแจงทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางอีกครั้ง

No comments:

Post a Comment

คำนำและบทสรุป

          คำนำและบทสรุป           รูปแบบการเดินทางเป็นเรื่องราวเฉพาะบุคคล ไม่มีการเดินทางเส้นไหนจะวิเศษกว่าเส้นทางไหน เพราะทั้...