แม้ว่าผมจะอาศัยอยู่ในบ้านของเซียนผู้มีประสบการณ์การพรุนนิ่งองุ่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทักษะที่มีประสิทธิภาพนี้ จะถูกส่งต่อเพียงแค่การพูดแนะนำทางวาจา สัปดาห์แรกกับงานนี้ของผมเป็นไปด้วยความทุลักทุเล ในตอนเช้าที่อากาศหนาวเหน็บ กับการตื่นเช้าขึ้นมาด้วยนิ้วมือที่มีอาการเกร็ง เนื่องจากต้องจับกรรไกรตัดกิ่งทั้งวันเมื่อวันก่อน ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีสำหรับการเริ่มวันใหม่เพื่อต้องทำสิ่งที่เหมือนกันอย่างเมื่อวานเลย
เวลาผ่านไปอีกวันและอีกวัน แต่ความรู้สึกแย่ๆ บางครั้งมันก็ดูเหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็วและไม่มีอิทธิพลอะไรมากนัก เมื่อได้อยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ทำงานแบบเดียวกัน ในขณะที่ใจก็ระลึกเสมอถึงความตั้งใจแรกที่ก้าวเข้ามา เนื่องด้วยงานนี้ให้ค่าแรงที่สัมพันธ์กับจำนวนงานที่ทำได้โดยจะไม่อิงตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ รายได้จากสัปดาห์แรกเกิดขึ้นเพียง 60 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรายได้จากงานอื่นที่ผมเคยทำมา แต่มันก็ค่อยๆขยับขึ้นทีละนิดๆในแต่ละสัปดาห์จนตัวเลขดูเป็นปกติ ในขณะที่การโอนเงิน 300 เหรียญเพื่อเข้าบัญชีเงินเก็บยังเป็นสิ่งที่ผมทำอยู่เสมอไม่ขาด แม้ว่าในบางสัปดาห์รายรับจะอยู่ในอาการสาหัส จนบางครั้งการจะเก็บซะทีเดียวสามร้อยเหรียญอาจจะดูฝืนเกินไป อย่างไรเสีย ผมก็จะใช้วิธีโอนเพิ่มในสัปดาห์ถัดมาเพื่อสร้างความสมดุลของตัวเลข
แม้ว่าช่วงแรกๆของการเปลี่ยนงานในครั้งนี้จะไม่สนุกนัก แต่ไม่ว่ามันจะเป็นไปตามอย่างที่ผมเคยคิดแค่ไหน อย่างน้อยในตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่า มันไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิด มันมีบางอย่างที่มากกว่าซึ่งผมไม่ได้ตระหนักถึงก่อนหน้านี้ สิ่งนั้นก็คือขั้นตอนของกระบวนการฝึกฝนที่ต้องใช้เวลาในการพัฒนาด้วยการทำซ้ำแล้วซ้ำอีกในทุกวัน
แต่อาจเป็นเพราะช่วงชีวิตที่ผ่านมาของผมอาจเคยได้มีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์ทำนองนี้มาบ้างแล้วหลายครั้ง จนพอที่จะมั่นใจได้ว่า มันไม่มีอะไรที่แย่สุดๆจนเกินเยียวยาหรอก แม้ว่าใจเราในขณะนั้นจะรู้สึกทรมานแค่ไหนก็ตาม หากเราได้คิดวิเคราะห์ตามหลักของเหตุและผล ตลอดกับสังเกตสถานการณ์ความเป็นไปได้โดยรอบมาพอสมควรแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีนี้การสังเกตสิ่งรอบตัวก็คือการมองดูผู้คนที่เขาเคยทำสิ่งนี้มาก่อนเรา และเข้าใจว่าการทำครั้งแรกของเขา ก็ไม่ได้เหมือนกับความสามารถในปัจจุบันของเขาที่เราเห็นอยู่ตอนนี้หรอก การเข้าใจเช่นนี้จะช่วยให้ใจของผมไม่วิตกจนเกินเหตุเมื่อสถานการณ์ไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง และแทนช่วงเวลาที่หดหู่ให้เป็นความเชื่อมั่นและทำต่อไป สังเกต สอบถาม และทำซ้ำๆ และในที่สุดความเร็วในการทำงานนี้ของผมก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้จะไม่ได้เร็วที่สุดในกลุ่มของเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน แต่ก็เร็วกว่าสปีดของตัวผมเองในวันแรกมาก และเป็นสมรรถนะที่ผมรู้สึกพอใจ
แต่อาจเป็นเพราะช่วงชีวิตที่ผ่านมาของผมอาจเคยได้มีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์ทำนองนี้มาบ้างแล้วหลายครั้ง จนพอที่จะมั่นใจได้ว่า มันไม่มีอะไรที่แย่สุดๆจนเกินเยียวยาหรอก แม้ว่าใจเราในขณะนั้นจะรู้สึกทรมานแค่ไหนก็ตาม หากเราได้คิดวิเคราะห์ตามหลักของเหตุและผล ตลอดกับสังเกตสถานการณ์ความเป็นไปได้โดยรอบมาพอสมควรแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีนี้การสังเกตสิ่งรอบตัวก็คือการมองดูผู้คนที่เขาเคยทำสิ่งนี้มาก่อนเรา และเข้าใจว่าการทำครั้งแรกของเขา ก็ไม่ได้เหมือนกับความสามารถในปัจจุบันของเขาที่เราเห็นอยู่ตอนนี้หรอก การเข้าใจเช่นนี้จะช่วยให้ใจของผมไม่วิตกจนเกินเหตุเมื่อสถานการณ์ไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง และแทนช่วงเวลาที่หดหู่ให้เป็นความเชื่อมั่นและทำต่อไป สังเกต สอบถาม และทำซ้ำๆ และในที่สุดความเร็วในการทำงานนี้ของผมก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้จะไม่ได้เร็วที่สุดในกลุ่มของเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน แต่ก็เร็วกว่าสปีดของตัวผมเองในวันแรกมาก และเป็นสมรรถนะที่ผมรู้สึกพอใจ
ตัวชี้วัดของสิ่งนี้ก็คือรายรับที่ค่อยๆกลับมาเป็นปกติ มีบางครั้งที่บางสัปดาห์ผมจะเลือกทำงานต่อในวันเสาร์และอาทิตย์ และนั่นก็ยิ่งทำให้ตัวเลขดูทวีคูณมากขึ้น แต่ก็เกิดขึ้นแบบนี้ไม่บ่อยนักหรอก นิ้วและกล้ามเนื้อที่เคยอ่อนล้าและเจ็บปวด กลับไม่ค่อยรู้สึกอะไรนัก ทั้งๆที่งานก็ไม่ได้น้อยไปกว่าเดิม เมื่อผมมองย้อนกลับไปเช่นนี้ ผมมองว่าสิ่งนี้คือความสำเร็จครั้งหนึ่งที่ผมไม่เคยบอกใคร แต่มันก็เป็นอีกครั้งที่ผมสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่า ความกลัวและความเหนื่อยล้าในช่วงแรกไม่ได้เป็นตัวสรุปของสถานการณ์ หากผมเลือกที่จะมองมันอย่างพินิจวิเคราะห์และมองหาความเป็นไปได้ สิ่งที่เหลือต่อจากนั้นก็เป็นเรื่องของความอดทน และการตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆในทุกๆวัน เพื่อเป็นประกายไฟเล็กๆในการชาร์จกำลังใจของผม ให้ทนและทำต่อไป มันก็จะเป็นลูปวนไปเรื่อยๆจนผมรู้สึกพอใจกับตัวเองนั่นแหละ
ในบางวันที่ผมรู้สึกเหนื่อย เพราะแดดก็ร้อน แรงก็เพลียเมื่อต้องมองเห็นแถวองุ่นที่ไกลสุดตา แต่ใจก็เร่าร้อนที่จะทำให้มันเสร็จไวไว หากผมมีอาการเช่นนี้ ซึ่งจัดว่าเป็นอารมณ์ด้านท้อแท้จนเกือบถึงระดับพีค ผมจะใช้เทคนิคการทำต่อไปทีละหนึ่งขั้น ผมจะเลิกคิดว่าผมต้องการอะไรและเมินเฉยว่าผมจะอยากให้งานเสร็จเร็วแค่ไหน ผมจะไม่สนใจทั้งหมด ผมจะจดจ่ออยู่แค่อีกหนึ่งขั้นตอนที่กำลังจะเกิดขึ้นข้างหน้า ซึ่งอาจจะเป็นการใช้กรรไกรตัดกิ่งลงไปอีกครั้ง การดึงกิ่งเก่าออกอีกครั้ง การก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว และถึงแม้ผมจะรู้สึกปั่นป่วนด้วยความคิดต่างๆในหัวมากมาย และรู้สึกว่าอยากจะขี้เกียจและเลิกซะ สิ่งที่ผมจะนึกถึงก็คือ ทุกสเต็ปหรือการกระทำเล็กๆที่ผมขยับในแต่ละครั้ง จะมีผลนำไปสู่บ้านและสวนที่ไทยที่ผมอยากจะสร้างขึ้นมา และหากในอนาคตข้างหน้าผมอาจทำมันไม่สำเร็จ แล้วได้มองย้อนกลับมา และเห็นตัวเองกำลังท้อแท้อยู่อย่างตอนนี้ ผมก็คงจะเศร้ามาก พอรู้สึกได้แบบนี้ สิ่งที่ต้องทำก็แค่ตัดมันไปอีกครั้ง ดึงมันไปอีกที และก้าวไปอีกก้าว เนื่องด้วยความเข้าใจว่า สิ่งเล็กๆเหล่านี้จะค่อยๆประกอบกันเข้าเป็นสิ่งที่ผมต้องการในที่สุด
No comments:
Post a Comment