ณ เวลานี้ก็เป็นเวลาที่ใกล้จะสิ้นสุดฤดูหนาวแล้ว และฤดูกาลของงานตัดแต่งกิ่งองุ่นก็กำลังจะสิ้นสุดลง เงินของผมเมื่อคำนวณจากส่วนที่ไปจมกับรถทั้งสามคันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผมรู้สึกดีและผ่อนคลายได้บ้าง และสิ่งที่ผมหวังมานานและอยากจะให้เวลากับตัวเองก็คือ การได้เดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง เพียงแต่ว่าครั้งนี้จะพิเศษหน่อยก็คือ ผมจะเดินทางไปกับรถนอนคู่ใจของผม และผมจะขับไปและจะหยุดในที่ที่อยากหยุดตามที่ใจต้องการ หรืออาจจะเรียกพฤติกรรมนี้ว่า ค่ำไหนนอนนั่นก็อาจจะไม่ผิดนัก
แต่ประเด็นที่สำคัญที่จะลืมไม่ได้ก็คือ ผมจำเป็นต้องหาวิธีขายรถทั้งสองคันออกไป เพื่อความที่จะได้ไม่ต้องมาพะวงอะไรอีก ผมเริ่มศึกษาพวกเว็บไซด์ขายของออนไลน์(รวมถึงขายรถด้วย) ดูโปรไฟล์ของคนโน้นคนนี้ ลองสมัครเป็นสมาชิก และโพสขาย ซึ่งแน่นอนว่าผมต้องเสียค่าบริการ
สำหรับตัวรถทั้งสองคันนั้น ว่างๆผมก็จะล้างและขัดถูให้ดูสะอาดทั้งภายในและภายนอก และนำมันไปจอดในเมือง ในบริเวณที่คิดว่าน่าจะมีคนสนใจ พร้อมติดป้ายราคา
สำหรับในเว็บ ผมลองโพสเฉพาะคันของเพื่อนสีเทาเพียงคันเดียว เพราะอยากดูท่าทีว่าระบบมันจะเป็นอย่างไรก่อน เนื่องจากมันมีค่าบริการที่ต้องจ่ายในการโพส และอีกอย่างก็คือ รถคันดำคันแรกของผมนั้น ผมเคยอยู่กับมันมานาน และมั่นใจว่าคนจะชอบมันได้ไม่ยากนักหากได้ลองขับ ผมจึงไม่ค่อยห่วงเรื่องการปล่อยคันนี้นัก
นอกจากนี้ผมยังตระเวนไปตาม Backpacker ต่างๆทั่วเมือง เพื่อที่จะเขียนโน๊ตเล็กๆและติดไว้ที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ที่มักมีไว้ให้ และแน่นอนผมเขียนโน๊ตติดไว้ที่บอร์ดตามห้างสรรพสินค้าต่างๆในเมืองด้วย จากนั้นผมก็รอด้วยความหวัง และคอยดูแลสภาพรถให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา
และแล้ววันหนึ่งก็มีคนติดต่อมา เป็นผู้สนใจรถคันสีเทา เรานัดวันและเวลาที่จะไปดูรถกัน โดยผมจะเป็นฝ่ายขับรถไปที่บ้านของเขาในวันถัดไป และในเช้าวันรุ่งขึ้นก็มีอีกสายโทรเข้ามาขอดูรถเช่นกัน นับว่าการโปรโมทออนไลน์ครั้งนี้ได้ผลดีทีเดียว ผมบอกกับสายที่สองไปว่า ผมจำเป็นต้องให้คนที่โทรมาสายแรกได้ดูรถและตัดสินใจก่อน เนื่องจากเรามีนัดกันในบ่ายวันนั้น ซึ่งสายที่สองก็เข้าใจและขอให้ผมช่วยบอกเขาด้วยเมื่อรู้ผลลัพธ์แล้ว
บ่ายวันนั้นผมขับรถไปที่บ้านของสายที่หนึ่ง โดยขับตาม Google Map ไป แต่จะว่าไป ส่วนมากผมจะใช้วิธีถ่ายรูปหน้าจอ ตอนใช้ wifi ในที่พักมากกว่า โดยจะโฟกัสตรงช่วงเลี้ยวและชื่อถนน เนื่องจากบางครั้งผมไม่อยากจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้ออินเตอร์เน็ต เพราะผมมักจะไม่ค่อยได้ใช้มันอยู่แล้วในตอนทำงาน และการส่งMessage ของที่นี่ก็ถูกและสะดวกดีอยู่แล้ว
ผู้ที่จะซื้อคนนี้ยังเป็นวัยรุ่นอยู่เลย เขาว่านี่จะเป็นรถคันแรกของเขา เขาเรียกเพื่อนบ้านและลูกพี่ลูกน้องมาช่วยดูรถ ซึ่งผมก็ยินดีเมื่อพี่ชายของเขาอยากจะลองขับ ผมยื่นเอกสารประวัติการซ่อมรถทั้งหมดให้เขาดู หลังจากใช้เวลาอยู่สักพัก พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะซื้อรถคันนี้ โดยผมรับเงินสดจากหนุ่มคนนี้มา และช่วยค่าน้ำมันกับเขาไปยี่สิบเหรียญ แลกกับการไปส่งผมในเมือง ในที่ที่รถนอนของผมจอดอยู่ ผมแนะนำให้เขาไปเขียนเอกสารเพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของรถหากเป็นไปได้ ซึ่งผมก็จะเซ็นเอกสารในฐานะผู้ขายและจะนำไปยื่นที่ไปรษณีย์เช่นเดียวกัน
หลังจากที่เราแยกกันผมก็ตรงไปที่ไปรษณีย์ เซ็นเอกสารแสดงการสิ้นสุดการเป็นเจ้าของรถคันเทาแล้วยื่นที่ไปรษรีย์ทันที จากนั้นผมจึงโทรหาผู้ที่สนใจรถรายที่สองที่ติดต่อมาในตอนเช้า และบอกเขาไปว่าผมได้ขายรถคันสีเทาไปแล้ว แต่หากเขาสนใจรถอีกคันของผมซึ่งก็คือคันสีดำ ผมก็ยินดีที่จะพาเขาไปดูรถ ซึ่งพอคุยกันไปคุยกันมาก็พบว่า ตำแหน่งที่พวกเราอยู่นั้นไม่ได้ห่างกันเลย เขาอยู่ที่ธนาคารที่อยู่แค่ตรงข้ามถนนนี่เอง
หลังจากที่เราทักทายกันแล้ว ผมก็ชวนให้เขาและแฟนสาวขับรถตามผมมาที่ที่รถคันดำจอดอยู่ ผมยื่นกุญแจให้เขาลองขับทันที พร้อมกับนั่งไปกับเขาด้วย แม้จะขับไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่เขาก็ยูเทิร์นรถกลับ และบอกว่าเขายินดีที่จะซื้อรถคันนี้ ก่อนหน้าที่จะได้ลองขับผมได้โชว์เอกสารการเช็คสภาพรถทั้งหมดให้เขาดูแล้ว ซึ่งหากจะถามในมุมมองของผมซึ่งเป็นคนขายเอง ผมรู้สึกมั่นใจกับรถคันนี้มาก และด้วยความมั่นใจนั่นจึงทำให้การเจรจาเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติและมีชีวิตชีวา
หลังจากที่เขาขับรถมาจอดที่เดิม เขาได้บอกให้แฟนขับรถกลับบ้านไปก่อน จากนั้นผมได้ให้เขานั่งรถนอนมากับผมเพื่อที่จะกลับไปที่ธนาคารเดิมที่เราเจอกัน เขาเข้าไปเบิกเงินที่เคาเตอร์ และนำเงินสดเต็มจำนวนมายื่นให้ผม ในขณะที่ผมก็ยื่นกุญแจรถคันดำให้เขาเช่นกัน จากนั้นผมก็เดินไปที่ตู้รับฝากเงินอัตโนมัติแล้วนำเงินทั้งหมดเข้าบัญชีของผมเพื่อความปลอดภัย จากนั้นผมก็ขอให้เขาเซ็นเอกสารรับรองการเป็นเจ้าของคนใหม่ของรถคันนั้น
ขณะนั้นผมจำได้ว่ามีกุญแจของรถคันดำอยู่ที่บ้านอีกหนึ่งดอก ผมจึงพาเขาไปที่บ้านเพื่อที่จะนำกุญแจอีกดอกมาให้ จากนั้นผมจึงขับรถพาเขามาส่งที่ที่รถคันดำจอดอยู่ ในระหว่างทางที่เรานั่งรถมาด้วยกัน เขาถามผมว่า เมื่อขายรถเสร็จแล้ว ผมจะไปทำอะไรต่อ ผมก็ตอบด้วยความรู้สึกจากใจเลยว่า ผมจะออกเดินทางไปกับรถนอนคันนี้ ท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆที่อยากไปพร้อมกับอิสระภาพ ดูเหมือนว่าคำตอบที่ผมบอกเขาจะเหมือนเป็นสิ่งที่ผมต้องการที่จะบอกกับตัวเองมากกว่า
หลังจากพาเขาไปส่งที่รถคันดำ ผมก็บอกลาแล้วขอให้เขาโชคดีกับรถคันใหม่ของเขา เราปิดการซื้อขายครั้งนี้ด้วยดี ผมดูเวลาและพบว่ายังพอมีเวลาเหลือก่อนที่ไปรษณีย์จะปิด ผมจึงกลับไปที่ไปรษณีย์เดิมอีกครั้ง ยื่นเอกสารแสดงการสิ้นสุดการเป็นเจ้าของรถคันดำ
ในเวลาที่ผมเดินออกมาจากไปรษณีย์ ผมรู้สึกโล่งใจและปลื้มใจจริงๆ ที่วันนี้รถทั้งสองคันได้หลุดจากความดูแลของผมแล้ว และได้เปลี่ยนรูปกลับกลายมาเป็นตัวเลขในบัญชีอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ช่วยให้ผมรู้สึกดีขนาดนั้นก็คือ การรู้ว่าอย่างน้อยๆ ก่อนที่วีซ่าจะหมดอายุ(ซึ่งในขณะนั้นจะเหลือเวลาอีกประมาณเดือนครึ่ง) จะเป็นเวลาของการใช้ทรัพยากรที่ผมมีอยู่อย่างอิสระที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมเคยนึกฝันไว้ตลอดในช่วงเวลาก่อนหน้า ที่ผมได้อดทนทำงานอย่างหนัก ความรู้สึกนั้นมันช่างดีจริงๆ
No comments:
Post a Comment