เมื่อได้รู้แล้วว่าตอนนี้ยังไม่มีงาน น้าเค้าก็ชวนผมขึ้นรถบอกว่าจะพาไปเที่ยวบ้าน น้าคนนี้อยู่กับลูกสาวและลูกชายวัยรุ่น โดยส่วนตัวเมื่อรู้ว่ายังไม่มีงาน นั่นจึงทำให้ผมว่างและผมก็เป็นคนชอบเปลี่ยนบรรยากาศอยู่แล้ว ผมจึงตอบตกลงและขึ้นรถไปกับน้าเค้าโดยที่ไม่ได้ลังเลอะไรมากนัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผมไม่ได้รู้สึกว่าน้าเค้ามีพิษมีภัยอะไร และเค้าก็อุตส่าห์เอ่ยปากชวน ซึ่งผมเองก็อยากเห็นอะไรใหม่ๆในเมืองนี้อยู่แล้ว เหตุผลก็ง่ายๆแบบนั้นแหละครับ
พอไปถึงบ้านผมก็ได้เจอกับลูกชายของน้า
น้าก็ถามผมโน่นนี่สัมภาษณ์ผมไปเรื่อย ผมก็รู้สึกเพลิดเพลินที่ได้คุยกับคนไทยซึ่งผมก็เป็นคนชอบถามโน่นถามนี่เหมือนกัน
ที่บ้านในขณะนั้นมีห้องว่างอยู่ห้องหนึ่ง และเนื่องจากเมืองที่น้าเค้าอยู่นั้น ห่างจากร้านที่เราเจอกันประมาณครึ่งชั่วโมงซึ่งตอนนั้นก็ค่อนข้างเย็นแล้ว
น้าเขาเสนอหากผมสนใจที่จะนอนค้างที่นี่สักคืนในห้องว่างนั้น
หลังจากที่ผมได้เห็นห้องแล้ว ผมก็รู้สึกว่ามันไม่มีอะไรน่ากังวล ผมจึงตอบตกลง
แน่นอนว่าน้าเค้าทำอาหารไทยเลี้ยงมื้อเย็นผมด้วย
ผมนอนบนเตียงขนาดใหญ่อย่างสบาย และตื่นมาในตอนเช้าอย่างรู้สึกดีและสงบ
โดยปกติผมเป็นคนตื่นเช้า ผมตื่นเพราะร่างกายรู้สึกอิ่ม และผมก็ชอบที่จะไม่พลาดเวลาในการเข้าห้องน้ำในตอนเช้า
เพราะหากเราถ่ายหมดเราจะรู้สึกโล่งไปทั้งวัน
ผมเป็นพวกชอบเวลาในตอนเช้ามาก
เนื่องด้วยความเงียบและอากาศที่สดชื่นดี ยิ่งถ้าได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติด้วยนะ
ผมนี่เสพติดกับบรรยากาศตอนเช้าเลย ผมตื่นก่อนใครในบ้าน และหลังจากการเข้าห้องน้ำและล้างหน้าล้างตาแล้ว
ในขณะที่คนอื่นๆยังหลับอยู่ ผมก็แอบเปิดประตูบ้านอย่างเงียบๆเพื่อออกไปข้างนอก
ผมแค่อยากออกไปเดินเล่น
แผนก็ไม่มีอะไรมากก็แค่เดินไปเรื่อยๆ อะไรอะไรก็ดูน่าสนใจไปหมดในสถานที่ใหม่ๆแบบนี้
ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงของบ้านคน
ถนนเงียบๆในตอนเช้า เสียงนกร้องที่แตกต่างออกไปจากที่คุ้นเคย
แน่นอนว่าไม่มีเสียงไก่ขันเหมือนในชนบทบ้านเรา ผมเดินผ่านซุปเปอร์มาเก็ต
ร้านขายเบเกอรี่ จนมาถึงสวนสาธารณะแห่งหนึ่งโดยบังเอิธ ในมุมมองของผม นี่แหละคือความตื่นเต้นอย่างหนึ่งของการเดินไปอย่างไม่มีจุดหมาย.. การที่เราได้เจอสิ่งที่เราชอบแบบไม่ได้ตั้งใจ
สวนนี้ชื่อว่า Anderson’s Park จากการมองคร่าวๆก็ดูกว้างขวางใหญ่โตพอดู
มีสระน้ำขนาดใหญ่ มีห่านขาว ห่านดำ และหงส์สีดำ ใช่ครับ คุณอ่านไม่ผิดหรอก
มันมีหงส์สีดำในโลกนี้จริงๆ ผมเองก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ
นอกจากนี้ก็ยังมีเป็ดอีกมากมาย สัตว์หลายสปีชี่ส์เดินปะปนกันในกลุ่ม ผมว่ามันดูแปลก
ตลก แล้วก็ดูดี
ภายในสวนนี้จะมีเส้นทางคอนกรีตให้เดินโดยรอบ
มีสนามหญ้าขนาดใหญ่อยู่กลางพื้นที่ มีคนนำหมามาเดินเล่น หมาที่เจ้าของพามาเดินเล่นจำเป็นต้องมีคนคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาและต้องมีเชือกผูกคอไว้ตลอด
(บางสวนก็สามารถปล่อยให้วิ่งอย่างอิสระได้
แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าของตลอดเวลา)
กฎแบบนี้น่าจะถูกคิดขึ้นมาเพื่อให้สวนนี้สามารถเอื้อประโยชน์ให้กับความต้องการที่หลากหลายของทุกคนที่เข้ามา
โดยที่ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน
สวนสาธารณะที่นี่ดูสงบและผ่อนคลายเนื่องจากไม่มีผู้คนพลุกพล่าน ในพื้นที่บริเวณสวน(หากไม่นับรวมลานสเก็ตบอร์ด)
คุณอาจจะเจอคนไม่น่าจะเกิน 20 คนในช่วงเวลาปกติ
ต่างคนก็ต่างต้องการความเป็นส่วนตัวของตัวเอง และต้องการใกล้ชิดกับธรรมชาติ
ในสวนยังมีสถานที่ให้เด็กและวัยรุ่นมาเล่นสเก็ตบอร์ดโดยมีสถานที่จัดไว้ให้เฉพาะ
เท่าที่สังเกตผมคิดว่าวัยรุ่นที่นี่ชอบเล่นสเก็ตบอร์ดและรักบี้
ผมไม่เคยเห็นคนเล่นฟุตบอล บาส
หรือแบตมินตันตามสวนสาธารณะเหมือนอย่างบ้านเราสักเท่าไหร่ อันที่จริงแบตมินตันนี่ผมไม่เคยเห็นเลยสักครั้งเดียว
แต่ละกลุ่มคนก็มีความชอบไม่เหมือนกันว่าไหม?
เอาเป็นว่าสวนนี้สร้างความประทับใจให้ผมตั้งแต่แรกพบ
ข้อดีของที่นี่คือใกล้บ้านของน้า ระยะประมาณ 300 เมตรได้มั้ง
และมีซุปเปอร์มาเก็ตอยู่ในอาณาเขตนั้นด้วย ในใจผมรู้สึกได้ทันทีเลยว่า แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
แม้ว่าจะยังไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเองในตอนนี้ก็ตาม เนื่องจากผมมีที่ที่สามารถทำให้ผมรู้สึกดีได้ในระยะทางที่สามารถเดินไปถึง
สักพักน้าก็โทรมา
คงแปลกใจที่ผมออกจากบ้านมาในตอนเช้าโดยที่ไม่ได้บอกใคร
เค้าอาจจะกลัวผมหลง(แต่จริงๆบางครั้งผมก็ชอบความรู้สึกว่าผมกำลังหลง
มันดูงงๆและตื่นเต้นดี) พอเค้ารู้ว่าผมอยู่ที่สวนเค้าก็บอกให้ผมคอยอยู่ที่นั่น
เดี๋ยวน้ากับลูกชายจะเอาขนมปังเหลือๆที่บ้านไปให้อาหารเป็ดที่นั่นด้วย
ผมจึงได้รู้ว่า นอกจากปลาตัวใหญ่ๆแถววัดตามบ้านเราที่ชอบกินหนมปังแล้ว เป็ด ห่าน
หงส์และนกก็ชอบกินขนมปังเหมือนกัน
No comments:
Post a Comment