เมืองต่อมาที่รถโดยสารพาผมมาถึงก็คือเมือง Hastings ขอบอกตามตรงว่าที่มาที่ไปของการเลือกเมืองนี้มาจากความรู้สึกตอนที่คุยกับนักวินเซิฟชาวญี่ปุ่นคนนั้น และรู้สึกว่าเมืองนี้น่าจะดีกับการเก็บเงิน สำหรับเรื่องที่พักในเมืองนี้ ผมก็ได้คำแนะนำมาจากชาวญี่ปุ่นคนนี้เช่นกัน เขาบอกกับผมว่าผมต้องชอบที่นี่แน่ เขาแนะนำเพจของที่พักในเฟสบุคให้ผม ซึ่งผมก็ใช้ช่องทางนี้ ในการส่งข้อความติดต่อกับเจ้าของที่พักเรื่องการจองที่พักสำหรับวันที่จะเดินทางไป รวมถึงพิกัดของที่พักหากต้องเดินทางมาจากจุดจอดรถบัสในตัวเมือง
ผมยังจำวันแรกที่ผมเดินเข้าไปใน Hastings Backpacker พร้อมกับของพะรุงพะรังและกระเป๋าที่หนักอึ้งได้ดี
Ms. Kaye หญิงฝรั่งผิวขาวรุ่นคุณป้า ผู้เป็นเจ้าของและเป็นผู้ดูแลที่พักแห่งนี้
ออกมาต้อนรับผมด้วยท่าทางที่เป็นมิตรมาก เธอพาผมเดินไปห้องพักที่ผมต้องแชร์ห้องกับหนุ่มฮังการีตัวใหญ่
ผู้ซึ่งดูสุภาพมากเพราะผมมักจะเห็นเขาอยู่ในชุดสูทตลอดเวลา
เขาอยู่ห้องนี้คนเดียวมาเกือบเดือนแล้ว บรรยากาศใน Backpacker นี้ดูแตกต่างจากที่ผมเคยอยู่ที่ Aucklandอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากที่นี่เคยเป็นบ้านคนที่ถูกปรับให้เป็นที่พักแก่นักเดินทาง
มีห้องที่กว้างขวางกว่าและมีสถานที่โดยรอบให้เดินเล่น นอกจากนี้ห้องครัวก็มีขนาดใหญ่กว่ามากด้วย
ก็แน่ละเพราะมันคือ Backpacker
ในเมืองต่างจังหวัด
รู้ไหมค่าที่พักต่อสัปดาห์ถูกกว่าที่ผมอยู่ใน Auckland ตั้ง 40 เหรียญแหนะ และผมก็ไม่ต้องนอนเตียงสองชั้นอีกแล้ว
ที่นี่ผมได้นอนเตียงเดี่ยวส่วนตัว
ผมยังจำความรู้สึกที่ผมตื่นมาในเช้าวันแรกที่นี่ได้ ผมรู้สึกว่าผมได้หลับสบายมาก และได้ยินเสียงนกคุยกันนอกหน้าต่างในตอนเช้าขณะที่ผมตื่นนอน
สิ่งที่ต้องทำในช่วงนี้ก็คือหางานทำ
และคนเดียวที่น่าจะพอช่วยผมได้ ที่ผมพอจะนึกออกตอนนี้ก็คือเจ้าของที่พักแห่งนี้ ซึ่งก็คือป้าเคย์
เธอบอกว่าจะช่วยติดต่อนายหน้าจัดหางานให้ผม ซึ่งเขาจะมาพบผมในอีกสองวันที่นี่
แน่นอนว่าผมจ่ายเงินค่าที่พักเป็นแบบเหมาจ่ายรายสัปดาห์ไปแล้ว ซึ่งผมก็คงทำอะไรไม่ได้มากนอกจากการรอ
และหาข้อมูลจากผู้เข้าพักอื่นๆในแบคแพคเกอร์นี้
บางทีผมก็อาจจะไปเดินชมเมืองบ้าง
คุณบางคนอาจจะเข้าใจแล้ว หรือบางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าทำไมเจ้าของที่พักจึงจำเป็นต้องช่วยเหลือเรื่องการหางานให้กับผู้ที่มาเข้าพักด้วย
จริงๆมันก็ไม่ใช่ความจำเป็นหรอก แต่มันคือการบริการ ถ้าใครคนนึงสามารถได้งานทำที่อยู่ในบริเวณเมืองที่แบคแพคเกอร์นั้นตั้งอยู่
นั่นก็มีความเป็นไปได้ว่าลูกค้าคนนั้นจะพักที่นั่นนานขึ้น
และนั่นก็คือรายได้ที่ต่อเนื่องขึ้นของเจ้าของที่พักนั่นเอง แต่ก็อย่างที่บอกแหละคับ
การช่วยนี้ไม่ใช่หน้าที่แต่เป็นบริการเสริมของเจ้าของที่พักเอง
ระหว่างวันที่ว่างๆผมก็เดินเล่นรอบเมือง
ผมเป็นคนชอบเดินเล่นดูโน่นดูนี่ เมือง Hastings ดูเงียบมากในบ่ายวันพุธ ผมเดินไปเจอร้านขายสินค้า Asian อยู่ร้านหนึ่ง
ซึ่งหากจะเรียกง่ายๆก็คือร้านขายของชำนั่นแหละ เพียงแต่อยู่ในรูปลักษณ์ที่ทันสมัย
ผมเดินเข้าไปสำรวจเพราะอยากรู้ว่าข้างในนั้นมีอะไรบ้าง
ที่นี่มีของขายมากมายตั้งแต่สากเบือยันเรือรบ มีแทบทุกอย่างที่ร้านของชำควรจะมี
เจ้าของก็เป็นคนไทย
หลังจากที่เลือกมาม่ารสชาดไทยๆได้สองสามห่อ
ผมได้มีโอกาสเจอคุณน้าคนไทยคนหนึ่ง เขาคุยกับผมสักครู่หนึ่งหน้าร้าน ถามถึงที่มาที่ไปว่าผมมาอยู่เมืองนี้ได้อย่างไร
พอรู้ว่าผมกำลังหางานอยู่ น้าก็พยายามโทรติดต่อนายหน้าคนไทยที่รู้จักให้
ถึงแม้ว่าในขณะนั้นจะยังไม่มีงานเนื่องจากยังเป็นช่วงปลายฤดูหนาว
แต่ก็ทำให้ได้รู้ว่าจะเริ่มมีงานสวนของฤดูกาลใหม่ในอีกสองสัปดาข้างหน้า
บอกตามตรงผมรู้สึกดีที่ได้มีโอกาสเจอกับคนไทย บางทีการได้มีโอกาสได้ใช้ภาษาไทยหลังจากที่เพิ่งย้ายเมืองมาใหม่ๆแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีได้เหมือนกัน
No comments:
Post a Comment